รูปภาพจาก www.LivingDD.com
แพรรีด็อกมีลักษณะโดยทั่วไป คือ
ใบหูเล็ก ดวงตากลมโต ฟันแข็งแรง ขาคู่หน้าจะมีเล็บที่แหลมคมและแข็งแรง
มีหน้าที่ขุดคุ้ยดินเพื่อหาอาหารและขุดโพรงอยู่อาศัย
ออกหาอาหารในเวลากลางวันซึ่งกินได้ทั้งพืชและสัตว์ จำพวกหญ้า ผัก เมล็ดพืชต่าง
ๆ รวมถึง แมลงและหนอน มีสีขนสีน้ำตาลทอง ปลายหางมีสีดำ ส่วนของหางมีความยาว 3-4 นิ้ว เท้ามีสีครีม
ลำตัวอ้วนกลม เมื่อโตเต็มที่มีน้ำหนักประมาณ 1-2 กิโลกรัม แม้แพรรีด็อกจะเป็นสัตว์ฟันแทะวงศ์เดียวกับกระรอก
แต่จะไม่อาศัยและหากินบนต้นไม้เหมือนกระรอกทั่วไป
แต่จะหากินและทำรังด้วยการขุดโพรงอยู่ตามพื้นดินทุ่งราบและพื้นที่ที่เป็นดินโล่ง
เช่น ทุ่งหญ้าแพรรีในอเมริกาเหนือและเม็กซิโก
แพรรีด็อกเป็นสัตว์สังคม
จึงมักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง มีตัวผู้คุมฝูง 1 ตัว ต่อตัวเมียประมาณ 4 ตัว มีความพร้อมเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 1
ปีขึ้นไป ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนจะเป็นระยะผสมพันธุ์
ตัวเมียใช้เวลาตั้งท้องนานประมาณ 28-32 วัน (ประมาณ 1
เดือน) ออกลูกครอกละประมาณ 4-8 ตัวต่อปี
แพรรีด็อกเกิดใหม่ยังไม่ลืมตาและขนยังไม่ขึ้น กระทั่งเข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 หรือประมาณเดือนครึ่ง มีอายุขัยโดยเฉลี่ยในตัวเมียราว 8 ปี ส่วนตัวผู้เฉลี่ยที่ 5 ปี แพรรีด็อกเป็นสัตว์ที่ขุดโพรงดินใช้เป็นที่อยู่อาศัย
ที่ในแต่ละฤดูมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นอย่างมาก
โพรงที่อยู่ใต้ดินจึงต้องทนต่ออุณหภูมิที่สูงที่สุด ต่ำที่สุด
ทนน้ำท่วมรวมทั้งไฟไหม้ลามทุ่ง โดยแบ่งออกเป็นห้อง ๆ
แต่ละห้องจะอยู่ในระดับความลึกต่างระดับกัน เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน เช่น
ห้องเลี้ยงลูกอ่อน จะอยู่ในระดับที่มีอุณหภูมิค่อนข้างคงที่
ยังมีห้องใกล้กับพื้นผิวดินที่สามารถใช้หลบบรรดาสัตว์นักล่าจากด้านบนได้อย่างรวดเร็ว
และยังมีห้องสำหรับการจัดเก็บเสบียงอาหาร
ห้องที่สามารถใช้ฟังเสียงสัตว์นักล่าซึ่งอาจมาป้วนเปี้ยนอยู่นอกโพรง
โพรงแพรรีด็อกยังมีการขยายอาณาเขตออกเป็นเมืองที่ครอบคลุมพื้นที่หลายเอเคอร์
โดยมีแพรรีด็อกประมาณ 5-35 ตัวต่อเอเคอร์
ในยุคสมัยก่อนที่มนุษย์จะเข้ามาอาศัยอยู่ในท้องทุ่ง
เคยมีแพรรีด็อกครอบครองดินแดนอยู่ก่อนอย่างมากมายมหาศาล
หนึ่งในเมืองของแพรรีด็อกที่พบในรัฐเท็กซัสเมื่อปี ค.ศ. 1900 ครอบคลุมพื้นที่ถึง 64,000 ตารางกิโลเมตร
และมีจำนวนประชากรแพรรีด็อกอยู่ถึงประมาณ 400 ล้านตัว มีพฤติกรรมทางสังคมที่มักออกมาทักทายกันเองในฝูง
ซึ่งเวลาที่เจอกันครั้งแรกจะทักทายกันด้วยการยิงฟันและแตะกันคล้ายกับการโอบกอดหรือจูบ
จากนั้นก็จะช่วยกันทำความสะอาดขนให้กันและกันแพรรีด็อกมีจุดเด่นประการหนึ่งอันเป็นที่มาของชื่อ
คือ เสียงร้องที่คล้ายกับเสียงสุนัขเห่า จึงเป็นที่มาของชื่อปัจจุบัน นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง
ขอขอขคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น